ประวัติเชียงใหม่ เชียงใหม่เสียเอกราชให้กับกษัตริย์พม่าชื่อ พม่าปกครองอยู่เกือบ 200 ปี จนกระทั่งรัชกาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้ทรงสำเร็จราชการแทนพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้แต่งตั้งให้พระยากาวิละเป็นผู้สำเร็จราชการเมืองเชียงใหม่ เป็นราชธานีกรุงเทพฯ และมีเชื้อสายพระยากาวิละ เรียกว่า เจ้าเจ็ดตระกูล ปกครองเมืองเชียงใหม่. ลำพูนและลำปางต่อจนท. ขอให้มีการปฏิรูปการปกครอง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยกเลิกการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาลฝ่ายเหนือ จัดตั้งการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล เรียกว่า มณฑลพายัพ และในปี พ.ศ. 2476 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นมณฑลเทศาภิบาล จึงทำให้เชียงใหม่มีสถานะเป็นรัฐจนถึงปัจจุบัน
ลัวะเคยถูกกล่าวถึงว่าเป็นตำนานทางศาสนาของชนพื้นเมือง เช่น ตำนานพระธาตุล้านนาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในตำนานแรกที่กล่าวถึงเมืองเชียงใหม่ ก็เหมือนได้เกิด ว่ากันว่าลัวะเป็นผู้สร้างเวียงเจ็ดลิน เวียงสวนดอก เวียงนพบุรี หรือเชียงใหม่ เพราะตำนานหงส์คำแดงหรือตำนานกุดทับอินทขีลที่ลัวะนำรูปสัตว์เป็นสัญลักษณ์ของตำนาน ลูกหลาน ลัวะน่าจะเป็นคนแรกที่สร้างเมือง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นมนุษย์ควรจะอาศัยอยู่ที่นี่ แต่มันยังไม่ใช่เมืองที่สมบูรณ์ มีเมืองชื่อหริภุญชัย ตามตำนานการสร้างเมือง พระนางจามเทวี พระราชธิดาของพระเจ้าละโว้ได้เสด็จมาปกครองหริภุญชัย เมื่อ พ.ศ.1310-1311 หริภุญไชยจึงรับนับถือพระพุทธศาสนา ศิลปวัฒนธรรมของละโว้เคยเจริญขึ้นจนกลายเป็นอาณาบริเวณอันกว้างใหญ่
ประวัติเชียงใหม่ สร้างโดยพญามังราย
สัญลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ คือ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ประกอบด้วยกษัตริย์ 3 พระองค์ผู้สร้างเวียงเชียงใหม่ คือ พญามันราย พญางำเมือง และพระเจ้าหลวง สะท้อนถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของความร่วมมือของกษัตริย์ทั้งสามองค์ในภาคเหนือของประเทศไทยในปัจจุบัน แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อเสนอแนะจากนักวิชาการเกี่ยวกับประเด็นการสร้างเมืองเชียงใหม่ของพญามังรายเพียงพระองค์เดียว คือ นากับสัตตูราชู ไม่มีครั้งที่สอง” วิทยากรของ อ.สมฤทธิ์ ฤาชัย นำการอภิปรายโดย ณฐพร ดวงแก้ว ณ หอประชุมมติชนอคาเดมี ด้วยการนำเสนอและข้อโต้แย้ง อาจารย์สมฤทธิ์ ลือชัย กล่าวว่า ท่านชอบเรียนรู้ประวัติศาสตร์นอกตำรา นำไปสู่การพิสูจน์ว่าเชียงใหม่ไม่ได้สร้าง ของกษัตริย์ถึง 3 พระองค์ นี่คือหลักฐานที่ขัดแย้งกันของประวัติศาสตร์โดยกระแสหลักๆ แบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ เอกสาร จารึก และหลักฐานแวดล้อม เช่น ภาษา ผังเมือง เป็นต้น อาจารย์สมฤทธิ์ขอนำเสนอหลักฐานประเภทที่ 1 เอกสารสำคัญต่างๆ ตำราศาสนา หนังสือเชียงแสนและตำนานพื้นบ้านเชียงแสนซึ่งเป็นตำนานท้องถิ่นของเชียงรายพบว่าหลักฐานข้างต้นไม่ได้กล่าวถึงการสร้างเมืองเชียงใหม่โดยความร่วมมือของกษัตริย์ 3 พระองค์ และมีเพียงคนเชียงรายเท่านั้นที่สร้างเมืองเชียงใหม่
อาจารย์ก็โต้แย้งหลักฐานที่ว่ากษัตริย์ร่วมสร้างเชียงใหม่จากเอกสารชิงกันมรีปกรณ์ เอกสารไม่ได้ระบุว่าเชียงใหม่สร้างโดยกษัตริย์ แต่เพียงว่าพวกเขาผูกมิตรและแยกย้ายกันไปเมืองของตน อ.สมฤทธิ์ยังบอกอีกว่าเพิ่มทีหลังก็ได้ เนื่องจากเขียนขึ้นหลังจากสร้างเมืองเชียงใหม่ได้ 232 ปี พระรัตนเถระผู้แต่งบันทึกว่านำมาจากตำนานเดิม ไม่ทราบว่าข้อโต้แย้งเรื่องเอกสารหลักฐานนั้นเอามาจากตำนานที่ยังคงมีอยู่ 2 ตอนสำคัญ คือ ตำนานเมืองเชียงใหม่ และ ตำนานสิบห้าราชวงศ์กล่าวถึงกษัตริย์ 3 พระองค์ที่ร่วมกันสร้างเมืองเชียงใหม่ ไม. . แต่อาจารย์สมฤทธิ์ชี้ว่าเอกสารทั้งสองนี้คัดลอกมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลที่ ๔) ควรแก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้น กษัตริย์ทั้งสามองค์รวมกันจึงไม่ถือว่าสำคัญในการยืนยันว่าท่านสร้างเมืองเชียงใหม่
จากนั้นก็มีการเขียนประเภทที่สอง นี่คือจารึกวัดเชียงมั่นซึ่งแสดงว่าเมืองเชียงใหม่ถูกสร้างขึ้นด้วยความร่วมมือของกษัตริย์สามพระองค์ เขียนขึ้นหลังการสร้างเมืองเชียงใหม่ 285 ปี ดังนั้นโปรดใช้ความระมัดระวังในการใช้หลักฐานจารึกเพราะไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้องเสมอไป จารึกวัดเชียงสา พ.ศ. 2096 บันทึกไว้ว่า พระเจ้าไชยเชษฐาเป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่และหลังช้าง ในความเป็นจริง ในปี พ.ศ. 2096 เชียงใหม่อยู่ภายใต้การควบคุมของผู้สืบทอดของ Man Rai ดังนั้นจึงควรพิจารณาหลักฐานประเภทจารึกอย่างรอบคอบ มีหลักฐานว่ามังรายกับพระร่วงไม่เป็นมิตรกัน อาจารย์สมฤทธิ์ชี้เหตุหลักฐานสุโขทัยไม่บันทึกการสร้างเชียงใหม่ รวมทั้งเหตุที่มีอิทธิพลต่ออักษรสุโขทัย. จึงไม่ได้อยู่ที่เมืองเชียงใหม่ในขณะนั้น สะท้อนว่าพระเจ้าหลวงมีส่วนในการสร้างเมืองเชียงใหม่ อาจไม่จริง ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างพญามังรายกับพญางำเมืองนั้น อาจารย์สมฤทธิ์ อธิบายว่า ความสัมพันธ์นี้อยู่ฝ่ายเมืองพะเยา อาจารย์สมฤทธิ์ยังอธิบายถึงทฤษฎีที่กษัตริย์ทั้งสามพร้อมใจกันต่อต้านการรุกรานของมองโกลเพราะดินแดนทั้งสามนั้นเล็กเกินกว่าจะรุกรานได้ สังเกตได้จากการที่ท่านเลือกโจมตีเมืองใหญ่ ทฤษฎีนี้ไม่เกี่ยวข้องเพราะชาวมองโกลใช้การทูตกับสามจังหวัดมากกว่า
อาณาเขตติดต่อโดยรอบ
- ทิศเหนือดอยคำ ดอยปกกระ ดอยหลักแทง ดอยถ้ำปง ดอยกัป ดอยป่าวก และดอยผีพันน้ำ ในดอยอันคาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาลาวในรัฐฉานตอนเหนือ ประเทศพม่า ชายแดน
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอสามเงา อำเภอแม่ระมาด อำเภอตาสนยาง จังหวัดตาก มีอาณาเขตติดต่อกับลำน้ำแม่ตื่นและดอยผีปันน้ำ ดอยเลี่ยมและดอยหลวง
- ทิศตะวันออก อ.แม่ฟ้าหลวง อ.เมืองฝั่งตะวันออก อ.เมืองเชียงราย อ.แม่สรวย อ.เวียงป่าเป้า (จ.เชียงราย) อ.เมืองปาน อ.เมืองลำปาง (จ.ลำปาง) บ้านธิ อ.เมืองลำพูน อ.ป่าซาง อ.เวียงหนองล่อง อ.บ้านฮ่องลี ติดกับ จังหวัดเชียงรายและอำเภอเมืองลำปาง (ภาคลำพูน) มีร่องน้ำสุไหงกก ดอยสันอ่าง ดอยข้าวหลาม ดอยแม่วัวน้อย ดอยวังฟ้า และดอยแม่โถเป็นรอยต่อ ด้านที่ติดกับจังหวัดลำพูนมีดอยขุนห้วยแร ดอยจันสน และสนามม้าแม่ปิง
- ทิศตะวันตก อำเภอปาย อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอคุ้งยวม อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอแม่สะเรียง และอำเภอสบเมย (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน) มีดอยผีปันนา ดอยกิ่วแดง ดอยก่อนเมือง ดอยแม่แย้ม ดอยอันได้แก่ ดอยอันเกตุ ดอยแม่สุริน ดอยขุนยวม ดอยหลวง ล่องพฤษภา เมย์ออย และดอย ท่อ. ดอยคุนเหมยสร้างพรมแดน ประวัติเชียงใหม่